วันศุกร์ที่ 8 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

เที่ยวสวิตเซอร์แลนด์ดินแดนแห่ง"หลังคาทวีปยุโรป"


สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจในประเทศสวิตเซอร์แลนด์


          

"  เราไปทำความรู้จักกับประเทศสวิตเซอร์แลนด์กันก่อนสักนิดนะคะ"

          สวิสเซอร์แลนด์ เป็นดินแดนที่ได้รับสมญานามว่า “หลังคาแห่งทวีปยุโรป” (The roof of Europe) เพราะนอกจากจะมีเทือกเขาสูงเสียดฟ้าอย่างเทือกเขาแอลป์แล้ว ก็ยังมีภูเขาใหญ่น้อยสลับกับป่าไม้ที่แทรกตัวอยู่ตามเนินเขาและไหล่เขา สลับแซมด้วยดงดอกไม้ป่าและทุ่งหญ้าอันเขียวชอุ่ม สำหรับเลี้ยงสัตว์ ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีพื้นที่ประมาณ 41,287 ตารางกิโลเมตร เล็กกว่าประเทศไทยประมาณ 12 เท่าตัว จัดว่ามีภูเขามากที่สุดในยุโรป และเป็นประเทศที่มีทะเลสาบอยู่มากมาย ซึ่งเกิดจากแอ่งที่ลุ่มระหว่างหุบเขานั่นเอง ลักษณะของภูมิประเทศจึงไม่ค่อยมีพื้นที่ราบ สวิสเซอร์แลนด์มีอาณาเขตติดกับประเทศฝรั่งเศส เยอรมัน ออสเตรีย อิตาลี ทำให้ภาษาที่ใช้กันมีทั้ง 4 ภาษา คนสวิสฯส่วนใหญ่มีนิสัยรักสงบ รักความเป็นธรรม เคารพสิทธิของผู้อื่น อ่อนน้อม ถ่อมตัว ขยันขันแข็ง มัธยัสถ์ และมีความเป็นอยู่อย่างง่ายๆเมืองหลวงของสวิสเซอร์แลนด์คือกรุงเบอร์น มีเมืองใหญ่ๆที่สำคัญอีก 5 เมืองคือ ซูริค บาร์เซิล เจนีวา โลซาน และเมืองที่น่าสนใจอีกเมืองคือลูเซิร์น เป็นเมืองที่อยู่เกือบใจกลางประเทศ โดยตั้งอยู่ฝั่งค้านตะวันตกเฉียงเหนือของทะเลสาบลูเซิร์น ที่มีชื่อเรียกว่า ทะเลสาบสี่แคว้นแดนป่าไม้ (Lake of the four forest cantons) ตรงบริเวณปากแม่น้ำรอยซ์ (Reuss river) 

         สถานที่ ที่ขึ้นหน้าขึ้นตาและเหมาะสำหรับการพักผ่อนหย่อนใจแห่งหนึ่งก็คือ "ทะเลสาบลูเซิร์น" ซึ่งเป็นทะเลสาบสวยงามตั้งอยู่ท่ามกลางหุบเขา มองไปทางไหนก็จะเห็นภูเขาโอบล้อม ทัศนียภาพบริเวณรอบๆทะเลสาบลูเซิร์น เป็นอาคารบ้านเรือนแบบสมัยใหม่ มีถนนเลียบไปตามเนินเขาตลอดระยะทาง ริมทะเลสาบจัดเป็นสวนสาธารณะ มีดอกไม้นานาพรรณออกดอกบานสะพรั่ง เช่นกุหลาบและทิวลิป เป็นต้น อากาศริมทะเลสาบเย็นสบาย เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจอย่างยิ่ง สถานที่สำคัญที่นักท่องเที่ยวนิยมไปเยี่ยมชมกันคือ สะพานวิหาร (Chapel bridge) ซึ่งข้ามแม่น้ำรอยซ์ เป็นสะพานไม้ที่เก่ากี่สุดในโลก มีอายุหลายร้อยปี เป็นสัญลักษณ์และประวัติศาสตร์ของเมืองลูเซิร์นเลยทีเดียว สะพานวิหารนี้เป็นสะพานที่แข็งแรงมากมุงหลังคาแบบโบราณ เชื่อมต่อไปยังป้อมแปดเหลี่ยมกลางน้ำ ที่จั่วแต่ละช่องของสะพานจะมีภาพเขียนเป็นเรื่องราวประวัติความเป็นมาของประเทศสวิสเซอร์แลนด์ เป็นภาพเขียนเก่าแก่อายุกว่า 400 ปี แต่น่าเสียดายที่ปัจจุบันสะพานไม้นี้ถูกไฟไหม้เสียหายไปมาก ต้องบูรณะสร้างขึ้นใหม่เกือบหมด ภาพที่เห็น ถ่ายมาเมื่อหลายปีที่แล้วก่อนสะพานจะถูกไฟไหม้ จึงเป็นภาพสะพานเก่าตัวจริง นอกจากนี้บนสะพานวิหารยังมีร้านที่ระลึกขายของ มีสีสันสวยงามปลูกสร้างเป็นห้องๆลดหลั่นกันไปตามลาดสะพาน และบริเวณใกล้ๆกันนั้น ก็ยังมีหงส์จำนวนมากอาศัยอยู่สร้างชีวิตชีวาให้กับเมืองได้อีกด้วย

        "สถานที่ท่องเที่ยวในประเทศสวิตเซอร์แลนด์"

 เมือง เบิร์น Bern 
            เบิร์น  Bern เมืองหลวงของสวิตเซอร์แลนด์เป็นเมืองโบราณเก่าแก่และโรแมนติก การเดินเที่ยวชม ความงดงามของ สถาปัตยกรรมในเขตเมืองเก่า เป็นสิ่งที่นักท่องเที่ยวไม่ควรพลาด เมื่อมีโอกาสได้มาเยือนนครแห่งนี้ Bern สร้างขึ้นเมื่อ 800 ปีที่แล้วโดยมีแม่น้ำ Aare ล้อมรอบตัวเมือง แม่น้ำแห่งนี้เปรียบเหมือนปราการธรรมชาติซึ่ง ป้องกันเมืองไว้ทั้ง สามด้านสำหรับด้านที่สี่ชาว เมืองได้สร้างกำแพงและสะพานข้ามที่สามารถชักขึ้นลงได้ และโดยการรักษาผังเมืองให้มีสภาพดังเดิมตลอดหลายร้อยปีที่ผ่านมา Bernจึงได้รับการ ประกาศ ให้เป็นมรดก โลกของ UNESCO ซึ่งเป็นเมืองเดียวในประเทศ สวิตเซอร์แลนด์ การเดินชมเมือง ควรเริ่มจาก Rose Garden เพียง 5 นาทีก็จะพบกับบ่อเลี้ยง หมีของเมือง ( หมี เป็น สัญลักษณ์ของ Bern )จากนั้นเมื่อเดินข้ามสะพานมา ก็จะเริ่มเข้าเขตเมืองเก่า ที่มีหลังคาคลุมตลอดทางยาวถึง 6 กิโลเมตร ภายใต้หลังคานี้มีร้านค้ามากมายหลายร้อยแห่ง รวมทั้งภัตตาคารที่มีมากกว่า 150 แห่งในเขตเมืองเก่า และด้วยการดูแลรักษาสถาปัตยกรรมของเมืองอย่างดี Bern ยังเปรียบเหมือนเหมืองทองของนักถ่ายภาพอีกด้วย นอกจากนั้น Bern ยังมีโบสถ์ที่สูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ รวมทั้ง ตลาดนัดชาวนา ซึ่งจัดขึ้น 2 ครั้งต่อสัปดาห์ที่หน้ารัฐสภาของเมืองแห่งนี้



เมืองหลวงสวิตเซอร์แลนด์ เบิร์น




หอนาฬิกา Zytgloggeturm หรือ Zeitglockenturm หอนาฬิกานี้ใข้เป็นประตูเมืองแห่งแรก ของกรุงเบิร์น ในช่วงปี ค.ศ. 1191 ถึง 1256และเมื่อมีการสร้าง Prison Tower ขึ้น จึงได้เปลี่ยน ไปใข้ Prison Tower เป็นประตูเมืองแทน ในสมัยก่อนนั้นตึกนี้ไม่ได้เป็นนาฬิกาอย่างทุกวันนี้ จนกระทั่งในปี ค.ศ. 1530 จึงได้มีการติดตั้งนาฬิกาดาราศาสตร์




Munster St. Vinzenz 
โบสถ์นี้ตั้งอยู่ระหว่างถนน Munstergasse และถนน Herrengasse ซึ่งจากถนน
Krammgasse ก็ให้เดินเลี้ยวขวาไปก็จะเจอโบสถ์นี้ตั้งเด่นเป็นสง่าอยู่ใจกลางเขตเมืองเก่า โบสถ์นี้เป็นโบสถ์ประจำเมืองของกรุงเบิร์น ซึ่งถือว่าเป็นโบสถ ์ ที่สำคัญและใหญ่ที่สุดของ สวิสเซอร์แลนด ์ด้วย โบสถ์มีลักษณะเป็นศิลปะ แบบโกธิคยุคกลาง ได้เริ่มมีการก่อสร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1421 ซึ่งการดำเนินการสร้าง โบสถ์แห่งนี้กินเวลายามนามไปจนถึงปี ค.ศ. 1573 เวลาประมาณ 150 ปีที่ใช้ไปนั้น สร้างได้เพียงแค่ตัวโบสถ์ ซึ่งมีความสูงประมาณ 64 เมตรเท่านั้น ต่อมาใน ปี 1889-1893 ก็ได้มีการต่อเติมสร้างส่วนที่เป็นหอ คอยขึ้นจามีความสูงทั้งสิ้น 100 เมตร ถ้าใครมีเวลาหรือมีแรงมากพอทีจะขึ้นบันไดวนเพียงแค่ 285 ขั้น ก็สามารถเดินขึ้นไปบนยอดหอคอยเพื่อชม ทัศนีภาพของกรุงเบิร์นได้ ซึ่งเค้าว่ากันว่าสำหรับวัน ที่ฟ้าใส มากๆ จะสามารถ มองเห็นยอดเขา Eiger, Mönch และ Jungfrau จากหอคอยของโบสถ์นี้เลยทีเดียว




อินเตอร์ลาเก้น Interlaken 
"สวยเหมือนเมืองในฝัน" คือคำจำกัดความของ Interlaken ตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบ Thun และ Brienz สถานที่ตากอากาศชั้นนำส่วนใหญ่ในถิ่นที่เรียกกันว่า Bernese Oberland ตั้งอยู่ตามเชิงเขา Eiger, Monch และ Jungfrau ทิวทัศน์แถบนี้บริสุทธิ์และสวยงามเกินคำบรรยาย จึงเป็นสถานตากอากาศที่นักท่องเที่ยวจากทุกมุมโลกชื่นชอบมากที่สุด 



Jungfraujoch หลังคาแห่งยุโรป
หลังคาแห่งยุโรป ล่าสุดได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกของUnescoเมื่อเดือนธันวาคม 2544 สถานีรถไฟสูงที่สุดในยุโรป ที่ไม่สามารถลืมไปได้ ในการทัศนาจรภูเขา ซึ่งมีความ สูงถึง 3454เมตร พบกับสิ่งสวยงามที่นี่คือ วังน้ำแข็ง และทัศนียภาพ ที่งดงามประกอบ ไปด้วย Sphinxหอคอยชมทัศนียภาพ ที่อยู่เหนือ ธารน้ำแข็ง Aletsch ( ยาวที่สุดในเทือกเขา Alps ) และยอดเขาที่ปกคลุมไปด้วยหิมะ ของประเทศเพื่อนบ้าน พร้อมกันนี้ยังจะเดินเล่นบนหิมะ นั่งกระดานเลื่อนโดยมีสุนัข Huskyลากสนามเล่นสกี สโนว์บอร์ท สำหรับฤดูร้อนหรือ ท่านที่ชอบการท้าทาย ก็มีการผจญภัยอีกหลายอย่าง รับรอง 100% เช่น หิมะ และน้ำแข็ง






เมืองLuzern
  ลูเซิร์นเป็นเมืองหนึ่งในประเทศสวิสเซอร์แลนด์ มีประชากร 57,890 คน ตั้งอยู่แนวชายฝั่งทะเลสาบ ลูเซิร์น นเทือกเขาปิลาตุสและริจของเทือกเขาแอลป์ฝั่งสวิส สิ่งที่เป็นแลนด์มาร์คของเมืองและ มีชื่อเสียงมากคือชาปเพลบริดจ์(Chapel Bridge) เป็นสะพานไม้ที่สร้างสมัยศตวรรษที่14 ราวปี1290 ลูเซิร์นมีขนาดประชากรที่สมส่วนราว 3000 คน ทีปกครองโดยกษัตริย์รูดอล์ฟที่1 ลูเซิร์นเป็น เมืองที่นาฬิกาโรเล็กซ์ขายดีที่สุด รองลงมาคือมีดพก (Swiss Army Knives) Water Tower และ Chapel Bridge เป็นสัญลักษณ์ของเมือง Lucerne ที่นักท่องเที่ยวจำได้ทันทีที่เห็น สร้างมานานกว่า 650 ปีแล้ว ตัวเมืองเก่าเริ่มจากฝั่งแม่น้ำ Reussมีสถาปัตยกรรมสิ่งปลูกสร้างที่น่าสนใจ หลายแห่ง เมือง Luzern จะเต็มไปด้วยนักท่องเที่ยวเกือบตลอดปี





ภูเขา Titlis และ Pilatu
ภูเขา Titlis และ Pilatu และ ภูเขา Stanserhorn ภูเขา ภูเขา Titlis และ Pilatusเป็นภูเขาที่มีความชันที่ สุดในโลก มีภัตตาคารอยู่บนยอดเขาที่สามารถ ชมทิวทัศน์โดยรอบได้ ใช้สวิสพาสส์ล่องเรือชมทิวทัศน์ไปในทะเลสาบ Luzern จนถึงเมือง Vitznau สามารถต่อรถไฟขึ้น ไปเที่ยวภูเขา Rigi(ความสูง 1798เมตรเหนือระดับน้ำทะเล)ภูเขา Stanserhornเดินทางโดยรถรอกกว้านสมัยเก่าและรถกระเช้ารุ่นใหม่ล่าสุด (Aerial Cable Car) เพื่อชมทิวทัศน์และรับประทานอาหาร





หอคอยแปดเหลี่ยม เมืองลูเซิร์น
หอคอยแปดเหลี่ยม เป็นหอคอยรูปทรงแปดเหลี่ยม ลักษณะสถาปัตยกรรมแบบเก่าแก่ของเมืองลูเซิร์น ด้านบนสามารถมองเห็น วิวเมือง ลูเซิร์นได้อย่าง สวยงาม ด้านล่างมีทะเลสาบขนาดเล็กบริเวณรอบๆเป็นวิวที่สวยงาม แห่งหนึ่งของเมืองลูเซิร์น





อนุสาวรีย์สิงโตร้องไห้ที่เมืองลูเซิร์น
อนุสาวรีย์ ภูเขาสิงโต(Mountain Lion) เป็นอนุสาวรีย์ หินสลักรูปสิงโตแสนเศร้า สร้างไว้เพื่อร่วมรำลึกถึง และร่วมไว้อาลัยให้กับทหารชาวสวิต ที่เสียชีวิตระหว่างการร่วมรบในสงครามปฏิวัติที่ประเทศฝรั่งเศสเมื่อปี 1792






สะพานไม้เมืองลูเซิร์น 
สะพานโบราณ สะพานแห่งนี้ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของเมือง Luzern สร้างมานานกว่า 650 ปี เป็นสะพานไม้แบบที่มีหลังคาหน้าจั่ว ด้านในสะพานมีรูปภาพ เรื่องราวของ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ไว้ให้ดู มากมาย ในช่วงปี 1993สะพานไม้แห่งนี้ได้ถูกไฟไหม้ไป และปัจจุบันได้มีการซ่อมแซมเรียบร้อยแล้ว



อ้างอิง









































































































ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น